มาตรฐานแรงงานเบทาโกร

เบทาโกรกําหนด “มาตรฐานแรงงานเบทาโกร” หรือ Betagro Labor Standard (BLS) ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายแรงงานไทย มาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน และแรงงานสัมพันธ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านแรงงานของเบทาโกรและทุกบริษัทย่อยให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยประกาศเริ่มดําเนินการทุกบริษัทเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 ขยายไปสู่ซัพพลายเชนในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 และในปี 2560 เบทาโกรได้ดําเนินโครงการ “Your Voice, We Care” ร่วมกับสถาบันอิสรา เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับฟังเสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงาน เพื่อนําไปสู่การพัฒนาและแก้ปัญหาด้านแรงงานในระยะยาว ด้วย 5 หลักการ ดังนี้

คุ้มครองแรงงาน
เบทาโกรและบริษัทย่อยคุ้มครองแรงงานโดยมีเป้าหมายดูแลพนักงานด้วยการให้เกียรติและความเคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ พนักงานทุกคนจะได้รับความคุ้มครองจากงานที่เป็นอันตราย งานที่มีความเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หรือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม อาทิ ไม่ใช้แรงงานเด็ก ไม่ใช้แรงงานบังคับ ไม่เลือกปฏิบัติ ลักษณะงานหรือช่วงเวลาที่ทำงานที่ไม่เหมาะสม การดูแลอย่างมีมนุษยธรรม เวลาการทำงานเหมาะสม และผลตอบแทนที่เป็นธรรม
เบทาโกรและบริษัทย่อยดำเนินการให้มีการดูแลจัดสรรสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันให้แก่พนักงาน โดยพนักงานจะได้รับความคุ้มครองในด้านสุขภาพ และสามารถจัดการกิจธุระส่วนตัวได้เมื่อจำเป็น และคำนึงถึงความเหมาะสมด้านสวัสดิการสภาพแวดล้อม อาทิ ความสะอาด ความปลอดภัย ขนาดสถานที่ เมื่อเทียบกับจำนวนพนักงาน โดยกำหนดหลักการสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ใน 2 ส่วน ได้แก่ สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องตามกฎหมาย และการจัดสรรสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างเหมาะสม
เบทาโกรและบริษัทย่อยมีการกำหนดผู้รับผิดชอบด้านแรงงานสัมพันธ์ของแต่ละแห่ง เพื่อทำงานร่วมกับคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ในการดูแลสภาพความเป็นอยู่ของพนักงาน การกำหนดผู้รับผิดชอบด้านแรงงานเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพนักงาน ตลอดจนการให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ แก่พนักงาน
เบทาโกรและบริษัทย่อยมีการดำเนินการตามกฎหมายความปลอดภัย และมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัยสากล ISO45001 เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงาน และผู้เกี่ยวข้องที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในสถานประกอบกิจการ โดยการตรวจสอบ ปรับปรุง และติดตาม การดำเนินงานให้สถานที่ทำงานมีความปลอดภัย และกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ และรณรงค์ส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการทำงานอย่างปลอดภัย และอย่างต่อเนื่อง
เบทาโกรและบริษัทย่อยมีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานแรงงานให้เกิดขึ้น ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานด้านแรงงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการยกระดับมาตรฐานแรงงานทั้งห่วงโซ่อุปทาน พร้อมผลักดันคู่ค้าและผู้จัดหาให้ยอมรับการนำมาตรฐานแรงงานเบทาโกรไปใช้ในสถานประกอบกิจการของคู่ค้าของตน

การดูแลและพัฒนาพนักงาน

เบทาโกรให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยมีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะที่จำเป็นในแต่ละระดับงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Development) โดยมีกรอบการพัฒนาพนักงาน (Employee Development Framework) ที่พัฒนาทักษะการบริหารจัดการ (Leadership Skill) และการให้ ความรู้ ทักษะทางเทคนิคเฉพาะด้านในสายอาชีพ (Functional Skill) ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบผสมผสาน ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง การเรียนรู้ด้วยการแนะนำแนวทาง เทคนิคในการทำงานจากโค้ชและพี่เลี้ยง และเรียนรู้จากการฝึกอบรม แบ่งออกเป็น

โปรแกรมพัฒนาทักษะการบริหารจัดการและภาวะผู้นำ (Leadership Program)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะในการบริหารจัดการงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้บรรลุเป้าหมาย

โปรแกรมพัฒนาความรู้ ทักษะทางเทคนิคเฉพาะด้าน(Functional Program)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะในการปฏิบัติงานตามสายอาชีพ ให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมาย และเติบโตตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ

โปรแกรมพัฒนาพนักงานศักยภาพสูง (Talent and Succession Program)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานผู้มีศักยภาพสูง และผู้สืบทอดตำแหน่ง ให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร

การดูแลและพัฒนาสังคมชุมชน

เบทาโกรเชื่อว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต้องพัฒนาชุมชนและสังคมให้เติบโตไปพร้อมกัน โดยมีการจัดการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางปฏิบัติภายใต้กรอบความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สร้างผลกระทบ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชน ผ่านคณะกรรมการชุมชนสัมพันธ์ทั้งหมด 7 พื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ พื้นที่ลพบุรี และ พี้นที่ปากช่อง โดยทั้ง 7 พื้นที่มีกระบวนการจัดการและดำเนินกิจกรรมตามหลักการของกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือ CSR-DIW (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works)

นอกจากนี้ เบทาโกรยังให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิต และการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน อาทิ

โครงการอำเภอต้นแบบ COVID-free setting

เป็นโครงการความร่วมมือแบบบูรณาการจัดตั้งศูนย์พักคอยแบบครบวงจร หรือ Community Isolation ระหว่างคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานปกครองในพื้นที่ ชุมชน และเบทาโกร โดยดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์พักคอยแบบครบวงจร จำนวน 70 แห่ง ใน 10 อำเภอ และจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม 1 แห่งในพื้นที่เบทาโกร และร่วมกับจังหวัดอีก 1 แห่ง เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนให้เร็วที่สุด ลดความหนาแน่นของโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม พร้อมแบ่งเบาภาระระบบสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์

โครงการปลูกป่าชุมชน

เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความร่มรื่นในชุมชน และสามารถเป็นแหล่งอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนในชุมชนให้เกิดขึ้น โดยเริ่มขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี เบทาโกรและบริษัทย่อย ปี พ.ศ. 2560 เบทาโกรและบริษัทย่อย ร่วมมือกับชุมชน ช่องสาริกา หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น โรงเรียน วิทยาลัยเกษตรลพบุรี และวัด เริ่มปลูกจากชุมชนช่องสาริกา จำนวน 13,000 ต้น ใน 13 หมู่บ้าน ปัจจุบัน มีต้นไม้ จากโครงการเติบโต จำนวน 10,000 ต้น จนเป็นถนนต้นไม้ในชุมชน 4 สายหลัก

โครงการเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า

เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างเบทาโกรร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน และ ชุมชน ในการร่วมพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 107 แปลง ให้มีการทำเกษตรอย่างยั่งยืน การเพิ่มรายได้ในครัวเรือน และ การปลูกจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิด โดยมีการกำหนดแผนการพัฒนาตั้งแต่ พ.ศ. 2561-2565 โดยเบทาโกรได้มีการส่งเสริมการปลูกไม้ผลพื้นถิ่น ประกอบด้วย มะม่วง และชมพู่ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบจำนวน 2 แปลง

มูลนิธิสายธาร

เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 จากเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้บริหารและพนักงานเบทาโกรที่จะช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์และบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ และให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา บุคคล หรือองค์กรที่ขาดทุนทรัพย์ และส่งเสริมช่วยเหลือผู้กระทำความดี ตลอดจนดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์อื่น ๆ หรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งปัจจุบัน ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานเบทาโกร ยังคงร่วมทำกิจกรรมและให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิสายธารตลอดมา