ศูนย์นวัตกรรมอาหารของเบทาโกร มุ่งเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอาหาร รวมถึงการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร และเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยจากทีมงานที่มีประสบการณ์ ตลอดจนเครือข่ายนักวิชาการจากภาครัฐ และภาคเอกชนทั่วโลก ที่ใส่ใจ และให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากการคัดสรรวัตถุดิบอาหารคุณภาพสูงและปลอดภัยสูงสุด ตลอดจนผสมผสานความรู้เชิงวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์การอาหาร วิทยาศาสตร์เชิงประสาทสัมผัส ศิลปะการประกอบอาหารและความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อให้ได้นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็น “ผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคต” ตรงความต้องการ และความชื่นชอบของผู้บริโภคและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้บริโภค รวมถึงเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารของเบทาโกร

เบทาโกรได้ก่อสร้างโรงงานนำร่อง (Pilot Plant) ขนาด 4,000 ตารางเมตรแห่งใหม่ในประเทศไทย โดยมีห้องปฏิบัติการพิเศษที่ทันสมัยสำหรับการตรวจสอบอาหาร เนื้อสัตว์ ไส้กรอกและบรรจุภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการประสาทสัมผัส และห้องฝึกอบรมด้านประสบการณ์ลูกค้า ซึ่งโรงงานนำร่องแห่งนี้ได้รับการออกแบบเพื่อเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาแนวความคิดให้เป็นสินค้าที่จำหน่ายได้ และใช้เป็นสถานที่ที่เบทาโกร สามารถทดสอบแนวความคิดโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับลูกค้า ตัวอย่างผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมอาหาร ได้แก่

ผลิตภัณฑ์ S-Pure

ศูนย์นวัตกรรมอาหารประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ S-Pure ซึ่งประกอบด้วยเนื้อสุกร เนื้อไก่ และไข่ไก่ โดยแบรนด์ S-Pure ของบริษัทฯ เป็นแบรนด์แรกของโลกที่ได้รับการรับรอง "การเลี้ยงโดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (Raise Without Antibiotics - RWA)” โดย “NSF International” และสามารถตรวจสอบย้อนกลับห่วงโซ่อุปทานได้ในทุกขั้นตอนของการผลิต จากการวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ ได้คัดเลือกสุกร 3 สายพันธุ์ เพื่อเพาะเลี้ยงเป็นสุกรที่มีความนุ่ม ความฉ่ำ และคุณภาพของเนื้อที่ดีขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อหมู S-Pure ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ “Singapore Food Agency” เบทาโกรเป็นบริษัทแรกจากประเทศไทยที่ส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นไปยังประเทศสิงคโปร์ ภายใต้แบรนด์ S-Pure แสดงให้เห็นถึงการมีคุณภาพตามมาตรฐานขั้นสูงระหว่างประเทศ และผลิตภัณฑ์ S-Pure ของบริษัทฯ ยังได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากขึ้น โดยแสดงให้เห็นจาก CAGR ของยอดขายของบริษัทฯ ที่ร้อยละ 23 ในช่วงระหว่างปี 2562 ถึงปี 2564

บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใหม่

ที่ผ่านมาเบทาโกรใช้ถุงพลาสติกสูงถึง 600 ตันต่อปีในการชำแหละเนื้อสัตว์ ศูนย์นวัตกรรมอาหารจึงได้พัฒนา “ถุงพลาสติกโพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene - HDPE)” เพื่อทดแทนวัสดุเดิม ส่งผลให้เบทาโกรสามารถลดความหนาและปริมาณของพลาสติกที่ใช้ ซึ่งสามารถลดได้ถึงร้อยละ 30 หรือกว่า 210 ตันต่อปีโดยประมาณ เป็นการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเบทาโกรได้ร้อยละ 35 อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก

ศูนย์นวัตกรรมอาหารได้ออกผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกชนิดใหม่ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสนใจกับการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และต้องการผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นอีกก้าวสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยโปรตีนทางเลือก เช่น โปรตีนทางเลือกจากพืชที่จะสามารถมาทดแทนปัญหาการขาดแคลนอาหารที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 เบทาโกรได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกที่ทำจากพืชภายใต้แบรนด์ “Meatly!” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงที่สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย มีส่วนผสมหลักจากถั่วเหลืองที่ให้โปรตีน และไฟเบอร์สูง ข้าวสาลี และน้ำมันรำข้าว โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์อาหาร และทำขึ้นจากแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนโดยใช้ “เทคโนโลยีนวัตกรรมโปรตีนจากพืชของเบทาโกร (Betagro Plant-based Protein Innovation Technology)” ที่เลียนแบบเนื้อสัมผัส รสชาติ และรูปลักษณ์ของเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ เบทาโกรยังร่วมมือกับนักโภชนาการภายในและภายนอกองค์กร เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนสูง