เบทาโกรมุ่งมั่น "เพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า" โดยยึดมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด คุณภาพที่เหนือกว่า และราคาที่เป็นธรรม ภายใต้กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน นโยบายคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าอาหารจึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อสร้างความไว้วางใจให้ผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุด

การดำเนินงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและข้อกำหนดลูกค้า มีการบริหารจัดการความเสี่ยง วิเคราะห์และตรวจประเมิน เพื่อรับรองความปลอดภัยของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ ระบบความปลอดภัยนี้ถูกประเมินและควบคุมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยตลอดกระบวนการผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมทั้งส่งเสริมความตระหนักด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้พนักงานทุกระดับ

บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารจัดการคุณภาพตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ การขับเคลื่อนนโยบาย Digital Transformation ด้วยการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงด้านคุณภาพและความปลอดภัย สร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานสากล ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นดังกล่าว เบทาโกรได้นำมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยระดับสากลมาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน

1. กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ (ปศุสัตว์ เกษตร สัตว์เลี้ยง):

เน้นมาตรฐานสุขลักษณะและการปฏิบัติที่ดี (GHPs, GAP, GMP: Cosmetic, GMDP) มาตรฐานเฉพาะสำหรับอาหารสัตว์ (FAMI QS, UFAS, Global G.A.P, SUCI Bersih) การควบคุมโรคและสารตกค้าง (HACCP, RWA, ฟาร์มสุกรปลอดสารเร่งเนื้อแดง) และระบบบริหารจัดการคุณภาพโดยรวม (ISO 9001:2015, Farm First Poultry, ISO 17025:2017 สำหรับห้องปฏิบัติการ)

2. กลุ่มธุรกิจกลางน้ำ (อาหารและโปรตีน):

เน้นมาตรฐานสุขลักษณะและการผลิตที่ดี (GHPs, HACCP) มาตรฐานระบบบริหารจัดการคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (ISO 9001:2015, FSSC 22000, ISO 22000, IFS, BRCGS) การรับรองเฉพาะทาง (Q-Mark, HALAL, RWA, ALO)

3. กลุ่มธุรกิจปลายน้ำ:

เน้นการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น โรงงานผลิตเนื้อสัตว์อนามัย (Q-Mark) และโครงการเนื้อสัตว์ปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค (ปศุสัตว์ OK) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่สด สะอาด และปลอดภัยจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน

สำหรับมาตรการและนโยบายรับประกันคุณภาพของเบทาโกร ประกอบด้วย เบทาโกรมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้บริโภค โดยได้กำหนดนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านคุณภาพและความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ครอบคลุมทุกสายธุรกิจ เริ่มจากการวางรากฐานนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งขับเคลื่อนผ่านคณะทำงานด้านคุณภาพที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกกระบวนการเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการคุณภาพเบทาโกร (BQM) ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำของห่วงโซ่อุปทาน โดยเน้นการทำงานที่ประสานกันภายใต้มาตรฐานเดียวกัน พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วยการใช้ข้อมูลจริงในการวิเคราะห์และรายงานผลอย่างเป็นระบบ เพื่อความถูกต้องแม่นยำในการดำเนินงาน

เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุด มีการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยผลิตภัณฑ์อาหารระดับสากลอย่างสม่ำเสมอ ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านการตรวจประเมินทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และผลิตภัณฑ์สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารในองค์กร ผ่านการพัฒนาทักษะ ความรู้ และทัศนคติที่ดีของบุคลากร เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพในทุกรายละเอียดของการทำงาน และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ได้มีการยกระดับ Betagro Contact Center โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในระบบ Digital Betagro Contact Center (BCCx) เพื่อเป็นช่องทางหลักในการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

การบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิต มีการมุ่งมั่นพัฒนาการจัดการด้านคุณภาพกลุ่มบริษัทเบทาโกร (BQM) ให้ก้าวสู่การเป็น Smart BQM ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยขับเคลื่อนผ่านการออกแบบและวางระบบ การจัดการข้อมูลคุณภาพ การบูรณาการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกบนระบบคลาวด์ การเชื่อมโยงข้อกำหนดและกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการมีระบบติดตามเป้าหมายด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหารผ่านแพลตฟอร์ม Betagro Regulation & Compliance System (BRCS) และ Betagro Target Management System (BTMS) เพื่อลดความเสี่ยงและพัฒนากระบวนการจัดการอาหารปลอดภัยอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในระดับสากล นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคู่ค้ากลุ่มวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิต โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของอาหารเป็นหลัก มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ และมีการตรวจประเมินคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงจากการจ้างผลิต และเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบนั้นสอดคล้องตามกฎหมายและสร้างความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง