การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เบทาโกรตระหนักถึงความสำคัญและร่วมรับผิดชอบในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน สังคมและทั่วโลก รวมถึงมีการปรับตัวและวางมาตรการเชิงรุก โดยมุ่งเน้นการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ การใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การศึกษาและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ พร้อมมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำในอนาคตอย่างยั่งยืน
การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
เบทาโกรมุ่งสร้างความยั่งยืนและลดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย คู่ค้าและผู้บริโภค จึงตระหนักถึงความสำคัญตั้งแต่การออกแบบ ความปลอดภัยและการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน เพราะบรรจุภัณฑ์คือสิ่งที่ปกป้องผลิตภัณฑ์ของเบทาโกรให้ถึงผู้บริโภคอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ และเพื่อให้การใช้ทรัพยากรในการผลิตบรรจุภัณฑ์เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนลดปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญระดับโลก บริษัทจึงได้กำหนดเป้าหมายและแนวปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน สอดรับกับนโยบายและแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นหนึ่งในทิศทางการพัฒนาของทั่วโลก และประเทศไทย
การบริหารจัดการของเสีย
ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาการจัดการขยะ ทั้งในเรื่องของการควบคุมปริมาณการเกิดขยะ รวมไปถึงแนวทางการจัดการขยะ ซึ่งหากกิจกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ไม่มีการควบคุมหรือปรับปรุง ผลกระทบที่ตามมาจะย้อนมาส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ทั้งในเรื่องปัญหาสภาพแวดล้อมเป็นพิษ รวมไปถึงการปนเปื้อนของสารเคมีอันตรายในห่วงโซ่อาหาร ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดเบทาโกรจึงตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นปัญหาดังกล่าว จึงมีแนวทางบริหารจัดการขยะของเสีย ได้แก่การลดปริมาณการเกิดของเสียต่อน้ำหนักผลิตภัณฑ์ การลดอัตราการส่งของเสียกำจัด และการเริ่มพิจารณานำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ในองค์กร
การบริหารจัดการน้ำ
ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำทั้งในทางตรงและทางอ้อม แม้ว่าทรัพยากรน้ำจะเป็นทรัพยากรที่หมุนเวียนกลับมาใช้ได้ แต่หากขาดซึ่งการบริหารจัดการที่เหมาะสม อาจส่งผลต่อคุณภาพของน้ำ จนเกิดภาวะขาดแคลนน้ำสะอาดที่จะนำมาอุปโภคบริโภคได้ เบทาโกรตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ จึงได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อลดการใช้น้ำ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำภายในองค์กร การกำหนดเป้าหมายการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การประเมินความเสี่ยงพื้นที่ขาดแคลนน้ำ รวมไปถึงการติดตามปริมาณการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง
การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
เบทาโกรตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการและดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กับกระบวนการผลิต และมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยมุ่งสู่ 100% บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่ออยู่ร่วมกันกับชุมชน และสังคมอย่างยั่งยืน

อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเพื่อให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี

เบทาโกรตระหนักเสมอว่า “พนักงานทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า เราจึงมุ่งมั่นที่จะดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้สถานที่ทำงานและกระบวนการทำงานที่ปลอดภัย” บริษัทฯ จึงมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้จำนวนอุบัติเหตุลดลงจนเป็นศูนย์ ด้วยมาตรการต่างๆ อาทิเช่น กฎพิทักษ์ชีวิต 10 ประการ กิจกรรมการค้นหาความเสี่ยงเพื่อป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และ การจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (Process Safety Management – PSM) มาเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบการจัดการชีวอนามัยและความปลอดภัยของเบทาโกร (BETAGRO Safety Framework) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายอุบัติการณ์เป็นศูนย์ (Zero Incident) ในปี 2026 อีกด้วย
ยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ด้านไม่เพียงจะสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเบทาโกรเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการ ยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย สร้างความเข้มแข็งและเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน