ร่วมงานกับเรา
ร่วมงานกับเบทาโกร…ดีอย่างไร
ที่เบทาโกร เรามีจุดประสงค์ที่มุ่งมั่นในการเพิ่มคุณค่าทุกคนด้วยอาหารที่ดีกว่า ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ รวมถึงปลา อาหารแปรรูปที่เกี่ยวข้อง สำหรับการบริโภคในประเทศและส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีอาหารสัตว์เลี้ยง และการขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และสิงคโปร์ ตลอดจนการดำเนินงานด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนา การติดตามและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้ระบบการจัดการคุณภาพเบทาโกร (Betagro Quality Management - BQM) รวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ขั้นสูงที่ได้การรับรองและเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals – SDGs) และดำเนินการภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เบทาโกรจึงให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคล เพราะถือเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน




ค่านิยมองค์กร
เบทาโกรมีทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีศักยภาพ และมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทุกคนได้รับการบ่มเพาะและส่งต่อวัฒนธรรมการทำงานในแบบฉบับของเบทาโกร ผสานกับแนวคิด Data Driven, Collaboration และ Customer Centric สร้างวิถีการทำงานแบบใหม่ (New way of working) ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของเบทาโกรให้เป็นที่ประจักษ์กับลูกค้า คู่ค้า ชุมชนและสังคม พร้อมขับเคลื่อนไปสู่องค์กรที่มีวัฒนธรรมแบบสมรรถนะสูง (High Performance Culture)

Professional
รู้ลึก รู้จริง โดยการใช้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและดิจิทัล

Integrity
ซื่อสัตย์ โปร่งใส เป็นธรรมบนความถูกต้องของหลักการและหลักธรรมาภิบาล

People & Customer Centric
ใส่ใจ รับฟัง ลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน เคารพซึ่งกันและกัน

Innovation
กล้าเปลี่ยนแปลง ท้าทายตัวเองทำสิ่งใหม่ ๆ ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง

Quality
ยืนหยัดในคุณภาพ ใส่ใจทุกรายละเอียดในขั้นตอน และคำนึงถึงความยั่งยืน
การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร
เป้าหมายการพัฒนาพนักงานของเรา
การดำเนินการพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้เป็นไปตามแผนและกรอบการพัฒนาทักษะ (Employee Development Framework) ครบถ้วน 100% และจำนวนชั่วโมงฝึกอบรมเฉลี่ยต่อคน ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงต่อคนต่อปี เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมทั้งด้านทักษะ ความรู้ และแนวคิด ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและทิศทางขององค์กร
เบทาโกรตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ เรามีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานได้รับการพัฒนาความรู้ และทักษะที่จำเป็นของแต่ละระดับงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Development) ที่ประกอบด้วยการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ (Leadership Skill) และการให้ความรู้ ทักษะทางเทคนิคเฉพาะด้านในสายอาชีพ (Functional Skill) ด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบผสมผสาน 70:20:10 ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง การเรียนรู้ด้วยการแนะนำแนวทาง เทคนิคในการทำงานจากโค้ชและพี่เลี้ยง และเรียนรู้จากการฝึกอบรม โดยแบ่งออกเป็น

เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะในการบริหารจัดการงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้บรรลุเป้าหมาย และเตรียมความพร้อมยกระดับขีดความสามารถของการเป็น Change Agent ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบัน Bx Academy ในการดำเนินโครงการการเปลี่ยนแปลงภายใต้ 360 Transformation เพื่อสร้าง Business Impact ที่วัดผลได้

เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะในการปฏิบัติงานตามสายอาชีพ ให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมาย และเติบโตตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ

เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงานผู้มีศักยภาพสูง และผู้สืบทอดตำแหน่ง ให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กร
นอกจากนี้ เบทาโกรยังมีระบบการสับเปลี่ยนหมุนเวียนงาน (Job Rotation) เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถออกแบบการพัฒนา และกำหนดเป้าหมายการเติบโตในสายอาชีพได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญ เบทาโกรมีเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงให้ความสำคัญกับการวางแผนกำลังคนเชิงกลยุทธ์ โดยการสร้างและรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง (Talent) เพื่อเป็นฐานกำลังผู้นำสำคัญในอนาคต ที่สามารถรองรับตำแหน่งสำคัญเชิงกลยุทธ์ขององค์กรและการขยายธุรกิจของเบทาโกรต่อไป
การสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับพนักงาน
เบทาโกรเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของพนักงานที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดได้ไม่สิ้นสุด เราจึงสนับสนุนให้พนักงานที่มีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเอง ได้มีโอกาสศึกษาต่อทั้งในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อนำความรู้มาต่อยอดในการทำหน้าที่ยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร ช่วยให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
